อุปสรรคและความท้าทายในการก่อสร้าง: มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ

โดย ดร. กฤติกา ศิริวัฒนา วิศวกรโยธาที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ในด้านการบริหารโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่และซับซ้อน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผนและควบคุมโครงการของบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำแห่งหนึ่งในประเทศไทย

การก่อสร้างอาคารบ้านเรือน โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ หรือแม้แต่โครงการสาธารณูปโภคขนาดเล็ก ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความท้าทายและอุปสรรคมากมาย ไม่ใช่แค่เรื่องของการวางแผนและการออกแบบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัจจัยภายนอกที่คาดเดาได้ยาก ในบทความนี้ ดิฉันจะขอแบ่งปันประสบการณ์ตรงตลอด 15 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงความยากลำบากและวิธีการรับมือกับปัญหาเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ

อุปสรรคและความท้าทายหลัก

จากประสบการณ์ตรง อุปสรรคที่พบเจอบ่อยๆ ในวงการก่อสร้างของไทยมีดังนี้:

1. ปัญหาเรื่องงบประมาณและต้นทุนที่สูงเกินคาด

การควบคุมงบประมาณเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จของโครงการ แต่ในความเป็นจริง มักเกิดค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นกว่าที่วางแผนไว้ สาเหตุอาจมาจากการเปลี่ยนแปลงแบบแปลน การขาดแคลนวัสดุ หรือแม้แต่ปัญหาทางด้านภูมิศาสตร์ เช่น การเจอชั้นดินที่ไม่ตรงตามแบบ หรือการขุดเจอสิ่งกีดขวางใต้ดินที่ไม่คาดคิด ตัวอย่างเช่น โครงการก่อสร้างอาคารสูงแห่งหนึ่ง เจอปัญหาชั้นดินอ่อนกว่าที่สำรวจไว้ ทำให้ต้องใช้เสาเข็มเพิ่มจำนวนและขนาด ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นหลายสิบล้านบาท

2. การจัดการทรัพยากรบุคคลและวัสดุ

การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ การจัดการวัสดุที่ไม่ทันเวลา หรือปัญหาการประสานงานระหว่างทีมงานต่างๆ ล้วนเป็นอุปสรรคสำคัญ ตัวอย่างเช่น การขาดแคลนช่างฝีมือที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อาจทำให้โครงการล่าช้า และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการจ้างช่างที่มีราคาแพงกว่า หรือ การขนส่งวัสดุก่อสร้างที่ล่าช้า ทำให้การก่อสร้างต้องหยุดชะงัก กระทบต่อกำหนดการส่งมอบโครงการ

3. ความล่าช้าในการก่อสร้าง

ความล่าช้าอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ปัญหาด้านสภาพอากาศ การขออนุญาตที่ล่าช้า หรือปัญหาทางด้านการจัดการโครงการ ความล่าช้าส่งผลกระทบต่อต้นทุน และอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัท ตัวอย่างเช่น ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้การเทคอนกรีตต้องหยุดชะงัก และส่งผลให้โครงการล่าช้าออกไปหลายสัปดาห์

4. ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

ความปลอดภัยของคนงานและประชาชนในพื้นที่โดยรอบเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การขาดมาตรการด้านความปลอดภัย อาจนำไปสู่การบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และก่อให้เกิดความเสียหายต่อโครงการ ตัวอย่างเช่น การไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูง อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้

5. การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและแบบแปลน

การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดหรือแบบแปลนระหว่างการก่อสร้าง อาจทำให้เกิดความสับสน ความล่าช้า และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น การจัดการการเปลี่ยนแปลงอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

การแก้ไขปัญหา

การรับมือกับอุปสรรคเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยการวางแผนที่ดี การจัดการโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ และการทำงานเป็นทีม การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น BIM (Building Information Modeling) และการใช้ระบบการจัดการโครงการที่ทันสมัย สามารถช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการก่อสร้างได้

นอกจากนี้ การสื่อสารที่ดีระหว่างทีมงาน เจ้าของโครงการ และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที การตรวจสอบความถูกต้องของแบบแปลนและการวางแผนงบประมาณอย่างรอบคอบ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาได้

การเน้นความสำคัญของความปลอดภัย โดยการให้ความรู้และอบรมคนงานอย่างต่อเนื่อง และการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้

บทสรุป

อุตสาหกรรมการก่อสร้างเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ด้วยการวางแผนที่ดี การบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และการทำงานเป็นทีม เราสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ และสร้างโครงการที่ประสบความสำเร็จได้ ความเข้าใจถึงความเสี่ยงและการเตรียมพร้อมรับมือ เป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการก่อสร้าง